วิเคราะห์สรุปเปรียบเทียบ Antivirus

เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสที่ดีที่สุดปี 2012

 โปรแกรม Anti Virus ที่ดีที่สุดโดยเรียงตามลำดับ สำหรับคนที่อยากใช้ฟรี (3 อันดับ)

อันดับ 1  AVAST Anti-Virus (แบบฟรี) <เป็น Anti-Virus ที่ดีมากแต่ไม่มีใครเหลียวแล เพราะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราน้อย>
ประวัติ : AVAST แอนตี้ไวรัสสายพันธุ์เซค(CZECH) ถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งปี ค.ศ.1988  โดยโปรแกรมเมอร์สองคน คือ Eduard Kucera และ Pavel Baudis
ข้อดี : -> ฟรี(1 ปี) โดยเราจะต้องเข้าไปลงทะเบียนในเว็ปไซต์ http://www.avast.com/index
-> จะว่าไปว่ามา AVAST Anti Virus จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Bit Defender Anti Virus เลยก็ว่าได้ ถ้าปรับ Optionในส่วนต่างๆให้ดีๆ
-> Update ให้โดยอัตโนมัติทุกๆวัน หรือตอนคุณเปิดอินเทอร์เน็ต
-> ไม่หนักเครื่อง ไม่ถ่วงความเร็วเน็ต
-> มี boot-time scan คือ สแกนไวรัสตอนที่ยังไม่ได้รันเข้า windows ซึ่งข้อดีก็คือตอนยังไม่ได้บูทเข้า windows ไวรัสจะยังไม่ทำงาน
-> ผมใช้กับ notebook มา 2 ปี แล้ว เข้าเน็ต ท่องเว็ปต่างๆมากมาย ยังไม่เห็นมีไวรัส หรือสปายแวร์ ที่ทำให้หนักเครื่อง
หรือทำลายข้อมูลเลย
-> มีเสียงคนพูดเมื่อตรวจพบสิ่งผิดปกติ หรือไวรัส
ข้อเสีย : -> ใช้ฟรีได้แค่ 1 ปี

อันดับ 2  Avira AntiVir (แบบฟรี) หรือที่บ้างคนเรียกกันติดปากว่า “ร่มแดง”
ข้อดี : -> แบบฟรีมีให้ตลอด
-> ถ้าเคยใช้ Anti-Virus ปู่ McAfee จะเห็นได้ว่า ร่มแดงมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน (ทดลองเอาไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงครับ)
ข้อเสีย : -> ทางบริษัท Service ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
-> กำจัดไวรัสทั่วไปที่มาคุกคาม

อันดับ 3  CPE17 Autorun Killer
ประวัติ : เกิดจากโปรเจคของนักศึกษา สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรี คนหนึ่ง ซึ่งมีหมายเลขประจำตัวที่ใช้เรียกในสาขาคือ CPE 17 (CPE ย่อมาจาก Computer Engineering)
ข้อดี : -> โปรแกรมนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของไวรัสที่ใช้ Flash หรือ Thumb drive หรือ เป็นหลัก ซึ่งต้องใช้ควบคู่ กับ antivirus software
-> ป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุ โดยบล็อกการทำงานของ autorun จากทุกทาง ทั้ง ไดรฟ์ถอดเปลี่ยนได้ทุกแบบ ไดรฟ์CD/DVD หรือ เน็ตเวิร์กไดรฟ์ก็ตาม
-> โปรแกรมเขียนขึ้นด้วยภาษา C++ แท้ มีขนาดเล็ก ~0.1MB ทำงานรวดเร็ว
-> ไม่กินทรัพยากรมากนัก สามารถใช้ได้แม้แต่เครื่องที่ความเร็วช้าก็ตาม
-> ดับเบิ้ลคลิกเพียงครั้งเดียว โปรแกรมก็พร้อมจะทำงานทันที ไม่ต้องติดตั้งให้เสียเวลา
-> สามารถป้องกันการรัน exe และการประมวลผล autorun file เฉพาะ windows xp ขึ้นไป
ข้อเสีย : -> เป็นการขัดขว้างไม่ไห้ Virus ที่มาจากการต่อพวงอุปกรณ์ภายนอก เช่น Flash drive , Thumb drive หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆ เท่านั้น
-> ไม่มีความสามารถในการทำลาย หรือรักษาไฟล์ที่ติดไวรัส

โปรแกรม Anti Virus ที่ดีที่สุดโดยเรียงตามลำดับ สำหรับคนมีเงินซื้อ (4 อันดับแรก)

 อันดับ 1  Bit Defender Anti-Virus
เป็น Anti virus ที่ติดตั้งง่าย ป้องกันไวรัสได้ทุกสายพันธุ์ Service ดีเยี่ยม มีการอัพเดทความเคลื่อนไหวของ anti virusใหม่ๆอยู่เสมอ
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับเครื่องที่สเปคต่ำ ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้า

อันดับ 2  Kaspersky Anti-Virus
ตัวนี้ไม่เคยใช้(แพงมาก) แต่เพื่อนผมเคยใช้แล้วเอามาเล่าให้ฟัง และผมก็ได้เห็นกับตาด้วย ว่า anti virus ตัวนี้ ป้องกันไวรัสได้ดีมาก เทียบเท่ากับ Bit Defender Anti virus เลยก็ว่าได้ และแล้วผมก็ได้พบข้อเสียจนได้คือเวลาคอมไพล์โค้ดภาษาโปรแกรมใช้เวลานานพอสมควร(เพราะผมลองนำKaspersky Anti-Virusไปทดลองลงกับเครื่องอื่นซึ่งเห็นผลอย่างเดียวกัน)

อันดับ 3  AVG Anti-Virus
ตัวนี้เคยใช้ตอนยังเป็นเวอร์ชั่น 7.xx ถือว่าดีในระดับหนึ่งจนกระทั่งนำ flash drive ของคนอื่นมาเสียบ ซึ่งหารู้ไม่ว่าในนั้นมีไวรัสอยู่ ทำให้ AVG ตัวนี้ตรวจจับไม่เจอ หาไม่พบ ทำให้ข้อมูลในเครื่องผมเสียหายหมดเลย และจากนั้นอีกไม่กี่ปีผมก็ได้หันมาลงAVG อีกครั้งซึ่งหลังจากไม่ได้ลงนานทำให้ดูเหมือนว่ามีอะไรต่างๆเปลี่ยนแปลงไปเยอะ โดยเฉพาะตอนเข้าอินเตอร์เน็ต จะเห็นตัวicon ที่บ่งบอกว่า Anti Vius AVG กำลังปกป้องคุณในขณะที่คุณกำลังเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ ซึ่งด้วยเหตุนี้เองทำให้ ผมไม่ค่อยปลื้มAVG สักเท่าไหร่ เพราะการที่ทาง AVG ทำแบบนั้นทำให้ถ่วงความเร็วอินเตอร์เน็ต และความเร็วของระบบคอม

อันดับ 4 ESET Nod32 Anti-Virus
ตัวนี้ไม่เคยใช้ของแท้ แต่เคยใช้ของปลอมสามารถ Update ได้  ข้อดีก็คล้ายๆกับ Anti virus ตัวอื่นๆ  เรามาพูดถึงข้อเสียกันดีกว่าข้อเสียก็คือ Nod32 จะ Update ฐานข้อมูลให้ ก็ต่อเมื่อตรวจพบไวรัสที่ไม่สามารถกำจัดได้  สรุปก็คือคนที่จะใช้ Node32 ได้ดีนั้นควรจะต่ออินเตอร์เน็ต ไว้ตลอดเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อ Update ข้อมูลเวลาเกิดปัญหา

avast Free AntiVirus 6 ถือเป็นโปรแกรมสแกนไวรัสอีกตัวที่ได้รับความนิยม ถึงแม้จะไม่เท่ากับ AVG AntiVirus Free Edition ก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงคะแนนที่ได้จากผู้ใช้งาน คงต้องบอกได้ว่า avast Free AntiVirus  นั้นได้รับคะแนนที่ดีมาก ถึงแม้คะแนนที่ได้นั้นจะเป็นรุ่นก่อนหน้า (avast Free AntiVirus 5) แต่ถ้าได้ดูจากกราฟเปรียบเทียบจาก AV-Comparatives.org แล้ว ก็ต้องยอมให้เค้าเลยล่ะครับ

ตารางเปรียบเทียบ ความเร็วในการสแกนไวรัส (คะแนนมาก หมายความว่าดี)
จาก AntiVirus Comparatives เมื่อกุมภาพันธ์ 2011 ที่ผ่านมา

จากการอัพเดทข้อมูลไวรัส พออ่านจาก Chart เปรียบเทียบแล้ว ก็เกิดอาการสงสัยเกิดขึ้นว่า หาก avast ทำงานดีที่สุดแล้ว เหตุใด AVG ถึงได้มีคนโหลดไปใช้งานมากกว่าล่ะ งานนี้ก็ไปถึงบางอ้อทันที เมื่อผมพยายามจะหา ​link ดาวน์โหลด จากเว็บของ avast ซึ่งหาไม่ยาก เพียงแต่เมื่อกดแล้ว ทาง avast ก็จะป๊อปอัพหน้าที่เป็น special offer ให้กับเรา ซึ่งบางครั้งไม่สามารถปิดได้นั่นเอง แบบว่าต้องกดเลือกซื้อนั่นเอง ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการหา โปรแกรมสแกนไวรัสฟรี นั้น ไม่คิดจะโหลดต่อนั่นเองครับ

10 อันดับที่ได้รับความนิยม

 อันดับที่ 10 Trend Micro

นับเป็น Antivirus เก่าแก่อีกเจ้าหนึ่งเลยครับ สำหรับ Trend Micro สำหรับค่ายนี้ ผมเคยใช้มาตั้งแต่ PC Cillin 2000 จนมาถึง Trend Micro Antivirus 2009 นับเป็นอีกโปรแกรมที่น่าสนใจครับ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน และระบบอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แต่ด้วยฟังก์ชันการป้องกัน P2P กับ Registry Startup ที่หายไป จึงทำให้โปรแกรมนี้ มาในอันดับที่ 10

อันดับที่ 9 Norton Antivirus

Norton Antivirus อีกหนึ่งโปรแกรมจากค่ายชื่อดังอย่าง Symantec ที่เราอาจจะเคยใช้โปรแกรมของค่ายนี้มามากมายแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็น GoBack, Partition Magic, BootMagic ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไปเทคโอเวอร์เขามานั่นแหละครับ เว้นก็แต่ Norton Antivirus ที่ถือว่าเป็น Antivirus เก่าแก่มากอีกตัวหนึ่ง ข้อดีของตัวโปรแกรมคือระบบ UI ที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ โดยเวอร์ชันนี้รองรับกับวินโดวส์ระบบ 32 บิตเท่านั้นนะครับ

อันดับที่ 8 G-DATA Antivirus

G-DATA โปรแกรม Antivirus จากประเทศเยอรมนี ซึ่งกวาดรางวัลมามากมายในอดีตครับ มีจุดเด่นฟังก์ชันอย่าง Webmail Scan และ Registry Startup ที่เป็น 1 ในไม่กี่ตัวของการทดสอบครั้งนี้ที่ทางผู้ผลิตใส่มาให้ แต่ด้วย User Interface ที่อาจงงเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ และเว็บไซต์ที่ยังคงเป็นภาษาเยอรมนีทั้งหมดเลย จึงทำให้โปรแกรมนี้ ยังคงได้เพียงแค่อันดับ 8

อันดับที่ 7 McAfee Viruscan

ถ้าถามผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์มือเก๋า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก McAfee ครับ นับว่าเป็นโปรแกรมรุ่นเก๋าอีกตัวหนึ่งที่ยืนยงคงกระพันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ จึงทำให้สามารถคว้าอันดับ 7 มาครองได้สำเร็จ

อันดับที่ 6 AVG Antivirus

ถ้าเอ่ยถึง AVG แน่นอนครับ คนส่วนใหญ่คงจะรู้จักแต่ Free Edition น้อยคนที่จะรู้ว่า เขามีเวอร์ชันเสียเงินด้วยเช่นกัน แน่นอนครับ เวอร์ชันฟรีประสิทธิภาพก็ไม่ธรรมดา มาเป็นเวอร์ชันเสียเงิน จะแพ้เวอร์ชันฟรีไปได้อย่างไร อันดับที่ 6 จึงเหมาะสมแล้ว สำหรับ AVG Antivirus ครับ

อันดับที่ 5 F-Secure Antivirus

F-Secure อีกหนึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่หลายๆ คนคงคุ้นหูกันดีครับ ประสิทธิภาพการป้องกันไวรัสที่ค่อนข้างดี และ Support ที่สมบูรณ์แบบ จึงทำให้ F-Secure สามารถครองอันดับที่ 5 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

อันดับที่ 4 Eset Nod 32 Antivirus

ผู้ใช้มือเก๋า รู้จัก McAfee, Norton ฉันใด ผู้ใช้รุ่นใหม่ๆ ก็รู้จัก Nod32 ฉันนั้น Antivirus ตัวนี้นับได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบันครับ ด้วยการทำงานที่กินทรัพยากรเครื่องน้อย สแกนได้เร็ว และประสิทธิภาพในการจับไวรัสที่ดี การอัปเดทที่ง่ายดาย แต่สำหรับมือใหม่บางคน อาจจะงงกับ User Interface ของโปรแกรมนี้บ้าง จึงทำให้ Nod 32 สมควรที่จะได้รับอันดับ 4 ไปครอง

อันดับที่ 3 Webroot Antivirus

หลายคนคงเคยได้ยิน Webroot Antispyware กันนะครับ เพราะโปรแกรม Antispyware ของ Webroot เป็นโปรแกรมที่กวาดรางวัลจากหลายๆ สถาบันมาแล้ว ใครจะไปเชื่อล่ะครับ ว่า Webroot ยังผลิต Anivirus ออกมาซะด้วย ถึงจะไม่ดังก้องโลกอย่าง Bitdefender หรือ Norton แต่เรื่องของประสิทธิภาพจากที่ทาง Viruscom2.com เปรียบเทียบมา ต้องบอกว่าไม่แพ้ครับ โปรแกรมนี้มีระบบการตรวจไวรัสจากอีเมล์ และฟังก์ชันอื่นๆ ที่สมควรจะมีในโปรแกรมป้องกันไวรัสครบถ้วน และนับว่าเป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว โดยโปรแกรมนี้รองรับการทำงานกับ Windows XP (32 Bit) และ Windows Vista (32/64 Bit) ครับ

อันดับที่ 2 Kaspersky Antivirus

Kaspersky Antivirus โปรแกรมสัญชาติรัสเซีย ก็ยังคงเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสอีกตัวหนึ่ง ที่คุ้นหูผู้ใช้ชาวไทยพอสมควร ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากหลายๆ สถาบันมากมายครับ Kaspersky ถือว่าเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงตัวหนึ่งทีเดียว แต่ด้วยจุดอ่อนในเรื่องของ หน้าต่างการทำงานที่อาจจะเข้าใจยาก และการกินทรัพยากรเครื่องค่อนข้างมากแล้ว อาจจะทำให้ Kaspersky ยังคงได้เพียงแค่ที่ 2 ครับ

อันดับที่ 1 BitDefender Antivirus

BitDefender โปรแกรมป้องกันไวรัสคุณภาพสูง ชื่อนี้คงสามารถการันตีคุณภาพให้กับหลายๆท่านได้อย่างดี ด้วยการกวาดรางวัลจากหลายๆ สถาบันมาแล้ว และด้วยการใช้ทรัพยากรที่ไม่สูงมากนัก กับฟังก์ชันต่างๆ ที่ครบถ้วน ราคาที่ค่อนข้างถูก รวมถึงคุณภาพและชื่อเสียงของการตรวจสอบไวรัสแล้ว BitDefender ก็เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว

อ้างอิงข้อมูล  :  http://www.computerworld.in.th/software/security/top-10-antivirus-2012.html